ที่มา: เดลินิวส์ (7 พ.ค. 2564)
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ต้อนรับคณะแพทย์จีน และนางสุภาภรณ์ แซ่จาง กรรมการผู้จัดการบริษัท เอินเวย์ กรุ๊ป จำกัด ที่ได้ส่งมอบยาเหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล (Lianhua Qingwen Capsule) และยาน้ำฮั่วเซียง เจิ่งชี่เย่ (Huoxiang Zhengqi Ye) เพื่อนำไปใช้กับผู้ป่วย ในระยะเบาและระยะปานกลาง เพื่อเพิ่มอัตราการหายของโรค ทำให้อาการหายเร็วขึ้น ช่วยฟื้นฟูเซลล์ปอดที่เกิดการอักเสบ และที่สำคัญก็คือ ยังช่วยลดสัดส่วนของผู้ป่วยที่มีอาการพัฒนาไปสู่ระดับรุนแรงหรือวิกฤติได้ถึง 50% อีกด้วย
การส่งมอบยาทั้ง 2 ซึ่งมีจำนวนรวม 4,600 กล่อง และมีมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท ให้กับทางกรุงเทพฯ เพื่อนำไปใช้ช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 ถือเป็นอีกทางหนึ่งในการช่วยลดความตึงเครียดของสถานการณ์ และลดแรงกดดันที่มีต่อระบบสาธารณสุขในปัจจุบัน โดยนับเป็นหนึ่งในกิจกรรมช่วยเหลือสังคมในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ของทางบริษัท เอินเวย์ กรุ๊ป จำกัด เช่นเดียวกับที่เคยส่งมอบบริจาคให้กับหน่วยงานอื่นๆ เช่น กระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลสมุทรสาคร กรมควบคุมโรค สมาคมหอการค้าไทย-จีน โรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิ สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เป็นต้น
ทางคณะแพทย์จีนได้กล่าวด้วยว่า ยาเหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล และยาน้ำฮั่วเซียง เจิ่งชี่เย่ เป็นยาที่ถูกบรรจุในกรอบแนวทางการวินิจฉัยและรักษาโควิด-19 ที่รัฐบาลจีนประกาศให้ใช้กับผู้ที่อยู่ในระยะเฝ้าสังเกตทางการแพทย์ ซึ่งเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ ผู้ที่เสี่ยง หรือเคยไปในพื้นที่เสี่ยง แต่ยังไม่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อ เพื่อเป็นการป้องกันและรักษาแต่เนิ่นๆ นอกจากนี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งเมืองอู่ฮั่นยังได้กำหนดให้ยาเหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล และยาน้ำฮั่วเซียง เจิ่งชี่เย่ เป็นยาป้องกันโควิด และประกาศให้ชาวเมืองอู่ฮั่นได้ใช้โดยพร้อมเพรียงกัน อีกทั้งเมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา ทาง FDA ของประเทศจีนก็ได้อนุมัติเพิ่มข้อบ่งใช้รักษาโควิด-19 ให้กับยาเหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล อย่างเป็นทางการ โดยเพิ่มข้อบ่งใช้ในการรักษาโรคโควิด-19 ในระยะเบา และระยะปานกลาง ที่มีอาการไข้ ไอ และอ่อนเพลีย ร่วมกับการรักษาตามมาตรฐาน
ปัจจุบัน ยาเหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล ได้ขึ้นทะเบียนและจำหน่ายใน 24 ประเทศทั่วโลก ซึ่งสำหรับประเทศไทย ยาเหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล ก็ได้ขึ้นทะเบียนเป็นยาสมุนไพรวิจัยพัฒนา ส่วนการเพิ่มข้อบ่งใช้รักษาโควิด-19 ในประเทศไทยนั้น ก็กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ส่วนยาน้ำฮั่วเซียงฯ ก็ได้ขึ้นทะเบียนเป็นยาแผนโบราณในประเทศไทย โดยถือเป็นตำรับยาที่มีประวัติการใช้ในวงการแพทย์จีนมากว่า 1,000 ปี จากประวัติศาสตร์จีนที่เคยเกิดโรคระบาดครั้งรุนแรงนับร้อยครั้ง ซึ่งจะเน้นเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ขจัดพิษชื้นที่สะสมอยู่ในร่างกาย อ้างอิงตามหลักทฤษฎีการแพทย์จีน เมื่อร่างกายมีพิษชื้นสะสมก็จะง่ายต่อการติดเชื้อ และเมื่อติดเชื้อแล้ว เชื้อโรคในร่างกายก็จะเจริญเติบโตและแพร่พันธุ์ได้เร็ว จากผลสรุปการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วประเทศจีนที่ผ่านมาได้พบว่า 96% ของผู้ป่วย มีสภาพร่างกายที่มีพิษชื้นสะสม นี่คือเหตุผลสำคัญที่ยาน้ำฮั่วเซียงฯ ถูกคัดเลือกจากวงการแพทย์จีนและรัฐบาลจีนให้บรรจุอยู่ในกรอบแนวทางการวินิจฉัยและรักษาโควิด-19 ซึ่งประกาศให้ใช้เพื่อป้องกันและรักษาโควิด-19 ทั่วประเทศ
จากการศึกษาทางคลินิกแบบ Multicenter, Prospective, Randomized Controlled trial ในผู้ป่วย 284 ราย จาก 23 โรงพยาบาลใน 9 มณฑลทั่วประเทศจีนระหว่างวันที่ 2-15 ก.พ. 2563 เพื่อศึกษาประสิทธิภาพและความปลอดภัยของยาเหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไข้ ไอ หรืออ่อนเพลีย ร่วมกับปอดอักเสบ โดยแบ่งผู้ป่วยเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้ 1. กลุ่มเปรียบเทียบ จํานวน 142 คน ใช้วิธีรักษาตามกรอบการแพทย์ปัจจุบัน 2. กลุ่มเหลียนฮัว ชิงเวิน จํานวน 142 คน ใช้วิธีรักษาตามกรอบการแพทย์ปัจจุบันควบคู่กับยาเหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล โดยรับประทานวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 4 แคปซูล เป็นเวลา 14 วัน ซึ่งผลพบว่า ยาเหลียนฮัว ชิงเวิน มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการรักษาโควิด-19 ทำให้อาการอักเสบของปอดได้รับการฟื้นฟูได้ดีกว่า และอาการหายเร็วกว่า
จากการแถลงข่าว สรุปผลการต่อสู้โควิด-19 ทั่วประเทศของสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของประเทศจีน เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2563 พบว่า 91.5% ของผู้ป่วยในประเทศจีนได้รับการรักษาด้วยยาสมุนไพรจีน และเห็นผลประสิทธิภาพโดยรวมสูงกว่า 90% ประสบการณ์และความสำเร็จในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 รวมทั้งการใช้ยาสมุนไพรจีนในการร่วมรักษาของประเทศจีนนั้น นับเป็นแนวทางที่ชาวโลกพึ่งได้ศึกษาเรียนรู้ และถือเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักวิจัยทั่วโลกได้มีความมุ่งมั่นในการค้นคว้าวิจัยยาสมุนไพรต้านโควิด-19 ต่อไป